นอกจากการทำความสะอาดร่างกายตามปกติเเล้ว หลายๆคนอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับส่วนเล็กๆ อย่างเช่น "สะดือ" สักเท่าไหร่ ทำให้เกิดการสะสมของคราบไขสบู่ และมีกลิ่นได้ค่ะ สะดือเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เพราะมีลักษณะเป็นซอกอับชื้น เชื้อราและเชื้อยีสต์จะเจริญเติบโตได้ดี ถ้าหากมีการติดเชื้อราหรือยีสต์ สะดือและผิวบริเวณรอบสะดือจะมีสีแดง และมีอาการคันร่วมด้วยอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียตามมา ซึ่งมีลักษณะเป็นน้ำเหลืองซึมๆ หรือเป็นสะเก็ด
วิธีการทำความสะอาดสะดือ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้: คอตตอตบัด, น้ำอุ่น ขี้ผึ้ง หรือ เบบี้ออยล์
1. มือข้างหนึ่งถ่างสะดือให้ขยายออกเล็กน้อย เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้สะดวก
2. ใช้คอตตอนบัดจุ่มน้ำอุ่น ขี้ผึ้ง หรือเบบี้ออยล์ เช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว ให้ทำอย่างใจเย็น และไม่รุนแรง
3. เปลี่ยนคอตตอนบัดอันใหม่เมื่อชิ้นเก่าสกปรก เช็ดทำความสะอาดด้วยวิธีเดิมให้ครบทุกซอกทุกมุม
ทำเช่นนี้และเปลี่ยนคอตตอนบัดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเช็ดแล้วคอตตอนบัดไม่มีคราบสกปรกอีก
หรือจนกว่าจะเช็ดออกมาแล้วคอตตอนบัดไม่มีกลิ่นเหม็น (ในรายที่มีปัญหาสะดือเหม็น)
4. เมื่อสะอาดดีและหมดกลิ่นเหม็นแล้ว หากเป็นการเช็ดด้วยน้ำอุ่น ใช้ผ้านุ่มๆเช็ดสะดือให้แห้ง
และใช้โลชั่น(1 หยด) ทาบางๆที่ผิวรอบบริเวณสะดือ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น
ข้อควรรู้เกี่ยวกับสะดือ
- สะดือที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี จะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา สาเหตุเกิดจากการอาบน้ำและล้างสบู่ไม่หมด ทำให้ไขสบู่ไปสะสมอยู่ที่สะดือ หมักหมม และเกิดเป็นกลิ่นไม่พึงประสงค์ สามารถเกิดอาการแพ้และแดงได้
- ไม่จำเป็นต้องแคะ หรือปลิ้นสะดือออกมาด้านนอกเพื่อทำความสะอาด เพราะจะทำให้สะดืออักเสบ
- การใช้คอตตอนบัดแตะขี้ผึ้งในการทำความสะอาดสะดือ จะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่สะสมอยู่ ลดสาเหตุหนึ่งของอาการสะดือมีกลิ่นได้ และยังสามารถทำความสะอาดเป็นพิเศษ โดยใช้สบู่สูตรผิวแพ้ง่าย หรือใช้น้ำยาชำระล้างจุดซ่อนเร้นสำหรับคุณผู้หญิง
- ห้ามใช้วัตถุที่มีปลายแหลมคมทำความสะอาดสะดือเป็นอันขาด
- หากเกิดบาดแผล อาการเจ็บปวด คัน หรือผิดปกติที่สะดือ ต้องรีบไปพบแพทย์
